สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติให้กับท่านเจ้าเมือง วีรบุรุษนักรบผู้ก่อตั้งและปกครอง ปกป้องบ้านเมือง ผู้สร้างเมืองคนแรก ตั้งอยู่ที่ทางเข้าเมืองสุรินทร์ทางด้านใต้ บริเวณนี้เคยเป็นกำแพงเมืองชั้นในของตัวเมืองสุรินทร์ อนุสาวรีย์เป็นรูปหล่อทองเหลืองรมดำ สูง 2.2 เมตร ด้านหน้าของอนุสาวรีย์เป็นงาช้างคู่ แสดงให้เห็นว่าท่านมีประวัติความ เป็นมากับช้าง เชี่ยวชาญในเรื่องช้างมาก่อน มือขวา ถือของ้าว เป็นการแสดงถึงความเก่งกล้าสามารถ ของท่านในการบังคับช้างศึก และเป็นเครื่องแสดงว่าสุรินทร์เป็นเมืองช้างมาแต่ดึกดำบรรพ์ รูปปั้นสะพายดาบคู่ อยู่บนหลังหมายถึง ความเป็นนักรบ ความกล้าหาญ อันเป็นคุณสมบัติที่ตกทอดเป็นมรดกของคนสุรินทร์
พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง (ปุม) พระยาสุรินทร์ภักดีฯ (ปุม) เจ้าเมืองประทายสมันต์ (เมืองสุรินทร์) ท่านแรก เป็นผู้วางรากฐานการก่อตั้งเมืองสุรินทร์ ในสมัยอยุธยา มีชาวไทยพื้นเมืองกลุ่มหนึ่งที่เรียกตนเองว่าส่วยหรือกวย หรือกูย เป็นกลุ่มชนที่มีความรู้ความสามารถในการจับช้างป่ามาเลี้ยงไว้ใช้งาน ได้แบ่งกลุ่มมาตั้งถิ่นฐานอยู่หกพวกด้วยกัน ในเขตจังหวัดสุรินทร์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2302 มีช้างเผือกแตกโขงออกจากเมืองหลวงหนีเข้าป่า สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 แห่งกรุงศรีอยุธยาได้โปรดเกล้าฯ ให้ติดตามช้างเผือก เชียงปุมซึ่งเป็นหัวหน้าชาวส่วยที่มาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่บ้านเมืองที่ได้ช่วยเหลือในการติดตามช้างเผือก เชียงปุมจึงได้โปรดเกล้า ฯ ให้เป็นหลวงสุรินทร์ภักดี ให้ปกครองหมู่บ้านเดิมขึ้นตรงต่อเมืองพิมาย
ในปี พ.ศ. 2306 หลวงสุรินทร์ภักดี (เชียงปุม) ได้ย้ายจากหมู่บ้านเมืองที่ไปอยู่ที่บ้านคูประทาย หรือบ้านประทายสมันต์ ต่อมาหลวงสุรินทร์ภักดี (เชียงชุม) ได้เป็นพระสุรินทร์ภักดีศรีรณรงค์จางวาง และยกบ้านคูประทาย ขึ้นเป็นเมืองประทายสมันต์ พ.ศ. 2324 เมืองเขมรเกิดจลาจล เมืองประทายสมันต์ได้สมทบกับกองทัพหลวงไปช่วยปราบปราม จึงมีชาวเขมรอพยพครอบครัวมาตั้งอยู่ในเขตเมืองประทายสมันต์เป็นจำนวนมาก พ.ศ. 2329 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อเมืองประทายสมันต์ เป็นเมืองสุรินทร์ ตามสร้อยบรรดาศักดิ์ของเจ้าเมือง
พ.ศ. 2337 พระยาสุรินทร์ภักดี ฯ (เชียงปุม) เจ้าเมืองสุรินทร์ถึงแก่กรรม
จังหวัดสุรินทร์ได้ทำพิธีเปิดอนุสาวรีย์แห่งนี้เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2528 ในช่วงวันนี้ของทุกปีจะมีพิธีรำบวงสรวงจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปี